คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับการตลาดแบบพันธมิตรมามากมาย แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่าจะทำให้สิ่งนี้เป็นอาชีพเสริมได้อย่างไร ?
นี่คือ 5 ไอเดียในการจะเริ่มต้นเป็นนักการตลาดแบบพันธมิตร:
เว็บโฮสติ้ง
ด้วยธุรกิจต่าง ๆ มุ่งสู่ออนไลน์กันมากขึ้น จึงทำให้มีผู้จำหน่ายเว็บโฮสติ้งมากมายที่จะมองหาโอกาสทางธุรกิจ และนี่จึงมีโปรแกรมพันธมิตรมากมายที่คุณสามารถเลือกที่จะทำงานร่วมด้วยได้
การจ่ายเงินถือเป็นประเด็นสำคัญที่สุดที่ควรจะต้องพิจารณา ตัวอย่างเช่น หากคุณเข้าร่วมโปรแกรมพันธมิตรของ Liquid Web ซึ่งจ่ายค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 150% ในเดือนแรก ดังนั้นหากคุณแนะนำลูกค้ามาใช้และจ่าย US$400 ในเดือนแรก คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ US$600
โปรแกรมพันธมิตรที่แข็งแกร่งควรมีการซัพพอร์ตการขายด้วย เพราะคุณจะอยากร่วมงานกับโปรแกรมที่มีคลังภาพและแบนเนอร์ให้ใช้ด้วย เพื่อให้คุณประหยัดเวลาได้มากขึ้น
อย่าลืมตรวจสอบคุณภาพของบริการเว็บโฮสติ้งที่คุณโปรโมทด้วย ควรเลือกที่มีรีวิวที่ดีจากลูกค้าและดูน่าเชื่อถือ เพราะการโปรโมทผลิตภัณฑ์ที่แย่อาจจะทำให้ความน่าเชื่อถือของคุณลดลงไปด้วยในสายตาของผู้คนที่ติดตามคุณ
การแนะนำผ่านอีเวนต์และสัมมนาออนไลน์
ช่วยให้ผู้จัดงานอีเวนต์หาคนมางานได้ครบและรับผลตอบแทนในแต่ละคนที่แนะนำมา
ตัวอย่างเช่น โปรแกรมพันธมิตรของ DigiMarCon Asia Pacific 2021 จ่าย US$200 สำหรับทุก ๆ การแนะนำ งานของคุณก็แค่ช่วยบอกต่อออกไป แล้วก็รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อใดก็ตามที่มีคนมาลงทะเบียนสำหรับอีเวนต์
สัมมนาออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม แพลตฟอร์มอย่างเช่น NinjaWebinar มีโปรแกรมพันธมิตรที่จ่ายค่าคอมมิชชั่นถึง 30% สำหรับการแนะนำในแต่ละเดือนและต่อเนื่องตลอดตราบเท่าที่ผู้ใช้งานยังใช้งานแพลตฟอร์มนี้
แพลตฟอร์มเองยังมีเครื่องมือซอฟต์แวร์ในการช่วยจัดการที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสัมมนาออนไลน์ได้ และคุณเองก็ยังจะได้รับค่าคอมมิชชั่นหากมีใครทำการซื้อภายใน 90 วันหลังจากการคลิกลิงก์พันธมิตรของคุณ
รีวิวสิ่งที่คุณชอบ
หากคุณเป็นแฟชั่นนิสต้า ฟู้ดเลิฟเวอร์ หรือแม้แต่เจ้าของสัตว์เลี้ยง ก็มีโอกาสในการสร้างรายได้เพียงแค่เล่าเรื่องให้คนอื่นฟังว่าคุณคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับกระเป๋า อาหาร หรือการเลี้ยงดูสุนัข
คุณสามารถแค่รีวิวพาสต้าแล้วก็ได้รับค่าแนะนำเมื่อผู้อ่านของคุณทำการจองที่ร้านอาหารผ่านบล็อกอาหารของคุณที่ใช้โปรแกรมพันธมิตรของ Chope ตัวอย่างเช่น มีการใส่ปุ่มจองตอนนี้ ในรีวิวอาหารของคุณ และเมื่อผู้ใช้จองผ่านลิงก์ Chope ของคุณ คุณก็จะได้รับรายได้แบ่งตามสัญญาที่คุณได้ตกลงไว้กับพวกเขา
เฉกเช่นกับแบรนด์อื่น ๆ อย่างเช่น Amazon จ่ายค่าคอมมิชชั่นตั้งแต่ 1% ถึง 10% ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่ถูกซื้อไป โดยเฉพาะเสื้อผ้า และสินค้าสวยงามลัคชัวรี่ เป็นสินค้าที่ได้รับค่าคอมมิชชั่นสูงสุด เว็บไซต์นี้มีสินค้าขายมากมาย ซึ่งคุณสามารถโปรโมทได้ตั้งแต่ที่นอนสุนัขไปถึงอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ หากผู้ซื้อซื้อสินค้าที่คุณโปรโมทไว้ในบล็อก คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนจากตะกร้าของผู้ซื้อทั้งหมด
การเทรดสำหรับลูกค้า
หากคุณชอบการวิเคราะห์ตลาดหุ้นและการเทรด คุณควรลองไปศึกษาเว็บไซต์อย่าง Forex4you ที่พร้อมมอบรายได้ทางที่สองให้กับคุณ
เพียงแค่แนะนำลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์มาเทรดบน Forex4you คุณก็ได้รับรายได้แล้ว หากคุณแนะนำลูกค้า คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นถึง 50% ของรายได้ที่ลูกค้าทำได้ และหากคุณหาพาร์ทเนอร์มาได้ คุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่นถึง 16.7% และยิ่งไปกว่านั้น หากพาร์ทเนอร์สามารถสร้างสายงานพาร์ทเนอร์ได้ คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นอีก 5.6% จากรายได้ที่พาร์ทเนอร์รายย่อยทำได้
ยิ่งคุณแนะนำลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ได้มาก รายได้ต่อเดือนของคุณที่จะได้รับก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ก่อนอื่นคุณต้องสร้างประวัติการเทรดที่มั่นคงเสียก่อนเพื่อดึงดูดลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์มาเทรดด้วยกับคุณ
ทำการตลาดผ่านอีเมล
เกือบจะทุกคนมีอีเมล และทุกแบรนด์ก็อยากจะเข้าถึงผู้บริโภคผ่านอินบ็อกซ์ และนี่หมายถึงบริษัทต่าง ๆ ก็ต้องมีเครื่องมือทำการตลาดผ่านอีเมล เพื่อช่วยให้พวกเขาได้เข้าถึงลูกค้าและส่งโปรโมชั่นและแคมเปญต่าง ๆ
ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์การตลาดแบบอีเมลก็ใช้การแนะนำเพื่อให้คนมาใช้บริการพวกเขา และหนึ่งในนั้นคือ Constant Contact ที่ให้บริการโปรแกรมพันธมิตรที่ช่วยให้คุณได้รับ $5 สำหรับทุกลีดที่มีคุณภาพ และเหนือไปกว่านั้น คุณสามารถทำเงินได้ถึง $105 ต่อการแนะนำหนึ่งคนที่มีการจ่ายเงินเปิดบัญชี และส่วนที่ดีที่สุดล่ะ ? คือไม่มีการจำกัดจำนวนการแนะนำ
และช่วยคุณด้วยการมีบริการคลังภาพต่าง ๆ ที่รวมไปถึงภาพโฆษณาและแบนเนอร์พร้อมให้คุณเลือกใช้ได้เองบนเว็บไซต์ของคุณ
แต่อย่าลืมลองทดสอบผลิตภัณฑ์เองก่อนที่จะเริ่มทำการโปรโมทด้วย
