Excerot: ทำไมเทรดเดอร์ Forex4you ส่วนใหญ่จึงใช้แผนภูมิแท่งเทียน? เรียนรู้พื้นฐานของแผนภูมิแท่งเทียน รวมไปถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้แผนภูมิเหล่านี้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
รู้หรือไม่ว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้แผนภูมิแท่งเทียนเพื่อวิเคราะห์และเ ทรด Forex? เหตุผลที่ใช้แผนภูมิแท่งเทียนก็คือ แผนภูมินี้อ่านพฤติกรรมราคาได้ง่าย และแสดงข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้อย่างรวดเร็วในลักษณะที่อ่านง่ายและชัดเจน นอกจากนี้ เทรดเดอร์ Forex ก็มองหารูปแบบแท่งเทียนหลายรูปแบบซึ่งจะบอกสิ่งที่เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์ได้ทันที โดยอ้างอิงจากการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตเป็นหลัก แล้วสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับแผนภูมิแท่งเทียนคืออะไร? ในบทความนี้ เราจะพาคุณทำความรู้จักกับประวัติสั้น ๆ ของแผนภูมิแท่งเทียน แสดงวิธีการอ่านแท่งเทียนขั้นพื้นฐาน และพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้แผนภูมิแท่งเทียนสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ประวัติของแผนภูมิแท่งเทียน
แผนภูมิแท่งเทียนถูกคิดค้นขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมในเอเชียหลังจากพ่อค้าข้าวชื่อ Munehisa Homma ใช้แผนภูมิแท่งเทียนเพื่อซื้อขายข้าวที่ตลาดโอจิมะ ในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรูปแบบที่ใช้นี้คล้ายคลึงกับรูปแบบแท่งเทียนที่ใช้ในปัจจุบัน จนกระทั่งปี 90s ที่แผนภูมิแท่งเทียนเริ่มเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ก่อนช่วงเวลานี้ ตลาดการเงินในทวีปเหล่านี้ใหญ่แผนภูมิเส้นหรือบาร์เป็นหลัก และเป็น Steve Nison ช่างเทคนิคการตลาดผู้มีใบอนุญาตและเป็นคนทำให้ตลาดการเงินตะวันตกรู้จักกับแผนภูมิแท่งเทียนในต้นปี 90s เทรดเดอร์ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปตระหนักว่า การอ่านและเข้าใจพฤติกรรมราคาด้วยแผนภูมิแท่งเทียนนั้นง่ายกว่าแผนภูมิแบบเส้นหรือบาร์มาก นอกจากนี้ แผนภูมิแท่งเทียนยังแสดงพฤติกรรมราคาชัดเจนและแม่นยำมากกว่าด้วยการใช้เพื่อแยกทิศทางของราคาค่าเงิน ด้วยคุณลักษณะเหล่านี้ การใช้แผนภูมิแท่งเทียนจึงกลายเป็นบรรทัดฐานในตลาดการเงินในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
โครงสร้างของแท่งเทียนและแผนภูมิ
ก่อนที่คุณจะเริ่มอ่านแผนภูมิแท่งเทียน สิ่งสำคัญคือ คุณต้องเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานของแท่งเทียน แท่งเทียนนั้นก็เหมือนกับบาร์ในแผนภูมิแบบบาร์ที่เป็นตัวแทนของช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เช่นกัน เช่น 1 นาที, 1 ชั่วโมง, 1 วัน, 1 สัปดาห์, 1 เดือน หรือช่วงเวลาอื่น ๆ แต่แท่งเทียนไม่เหมือนกับบาร์ตรงที่ให้ข้อมูลมากกว่ามาก:
-
ข้อแรกคือ แสดงราคาเปิดที่จุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่มีแท่งเทียนเป็นตัวแทน
-
ข้อสองคือ แท่งเทียนแสดงราคาปิดที่ช่วงท้ายของช่วงเวลา
-
ข้อสามคือ แท่งเทียนแสดงราคาสูงสุดที่ถูกบันทึกไว้ในช่วงเวลานั้น ๆ ของแท่งเทียนหนึ่ง ๆ ให้เทรดเดอร์ทราบ
-
ข้อสี่คือ แท่งเทียนแสดงราคาต่ำสุดในช่วงเวลานั้น ๆ
จากภาพข้างบนนี้ คุณจะเห็นว่าแท่งเทียนสามารถแสดงให้เทรดเดอร์เห็นว่า การที่ช่วงเวลาเทรดจบด้วยแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงนั้นขึ้นอยู่กับราคาปิดและราคาเปิด เมื่อราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนนั้นจะเป็นแบบขาลง ในทางตรงกันข้าม เมื่อราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ก็จะเป็นแท่งเทียนแบบขาขึ้น ไส้เทียนด้านบนและด้านล่างที่คุณเห็นนั้นเรียกว่า Upper Shadow และ Lower Shadow เช่นกัน ซึ่งแสดงราคาต่ำสุดและราคาสูงสุดที่ถูกบันทึกไว้ระหว่างช่วงเวลาที่มีแท่งเทียนนั้น ๆ เป็นตัวแทน แผนภูมิแท่งเทียนค่อนข้างเหมือนกับแผนภูมิแบบบาร์เนื่องจากแสดงระดับราคาหลักสำหรับช่วงเวลาที่กำหนดเช่นกัน ตามที่ได้อธิบายไว้ในย่อหน้าข้างต้น แท่งเทียนไม่เหมือนกับบาร์ทั่วไปตรงที่มีข้อมูลมาก และมีสีเพื่อแสดงทิศทางที่คู่ค่าเงินเคลื่อนไหว คุณสมบัตินี้ทำให้ง่ายต่อเทรดเดอร์ Forex ในการทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาของคู่ค่าเงิน ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจเทรดที่ฉลาดยิ่งขึ้น
ข้อดีของการใช้แผนภูมิแท่งเทียนสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
#1 Superior to Traditional Charts
#1 ดีกว่าแผนภูมิแบบดั้งเดิม ตัวแผนภูมิบาร์แบบดั้งเดิมให้ข้อมูลน้อยกว่ามาก ในขณะที่แผนภูมิแท่งเทียนแสดงพฤติกรรมของราคาที่เกิดขึ้นในตลาดโดยละเอียด การดูพฤติกรรมราคาของคู่ค่าเงิน Forex เมื่อเวลาผ่านไปจะช่วยให้เทรดเดอร์ใช้การวิเคราะห์รูปแบบเพื่อระบุความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวในอนาคตได้ หลังจากเวลาผ่านไปในระยะที่เหมาะสม การวิเคราะห์รูปแบบแผนภูมิแท่งเทียนสามารถมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเทรดเดอร์ Forex
#2 มุมมองทางจิตวิทยา
การเทรดค่าเงินมักได้รับอิทธิพลจากความโลภ ความกลัว และความหวัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อเข้าใจปัจจัยทางจิตวิทยาเหล่านี้ เพราะฉะนั้นการมีการวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนเป็นส่วนสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค จะช่วยให้คุณอ่านการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดมูลค่าของตลาดโดยไม่มีอิทธิพลจากจุดอ่อนของมนุษย์ตามที่กล่าวไป สิ่งนี้เรียกอีกชื่อว่า ทัศนคติของของนักลงทุน (Investor Sentiment) แผนภูมิแท่งเทียนมีส่วนในการวิเคราะห์ได้โดยการแสดงการโต้ตอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งมักสะท้อนให้เห็นในการเคลื่อนไหวของราคา
#3 เข้าใจง่าย
แผนภูมิแท่งเทียนให้ภาพของชุดรูปแบบที่แม่นยำสูงซึ่งชัดเจนและเข้าใจง่าย การใช้แผนภูมิแท่งเทียนร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐานอื่น ๆ จะทำให้คุณสังเกตรูปแบบที่เกิดขึ้นในตลาดได้ง่าย นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างกำไรจากรูปแบบเหล่านี้เมื่อเทรด
ข้อดีที่สุดของแผนภูมิแท่งเทียนก็คือ ไม่ต้องใช้เวลาเพื่อเชี่ยวชาญในการใช้งาน รูปแบบเหล่านี้สามารถจดจำได้ง่ายด้วยการฝึกฝนทุกวัน และแม้ว่าจะใช้ความพยายามเล็กน้อย กำไรที่จะได้รับหลังจากเข้าใจแผนภูมิเหล่านี้นั้นประเมินค่าไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีตัวชี้วัดทางเทคนิคหลายตัวที่จะให้สัญญาณเมื่อรูปแบบแท่งเทียนปรากฏ
ข้อเสียของการใช้รูปแบบแท่งเทียนสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
#1 A candlestick can look different on every time-frame
#1 แท่งเทียนอาจมีรูปแบบที่แตกต่างกันในแต่ละกรอบเวลา รูปแบบแท่งเทียนอาจดูเหมือนสมบูรณ์แบบในกรอบเวลาใดกรอบเวลาหนึ่ง แต่ก็อาจเกิดขึ้นเป็นรูปแบบตรงกันข้ามได้เช่นกัน ซึ่งทำให้การเชื่อความหมายที่ได้จากรูปแบบแท่งเทียนแบบ 100% เป็นไปได้ยากถ้าคุณใช้กรอบเวลาหลายกรอบ ดังนั้นจึงอาจสร้างความสงสัยให้กับเทรดเดอร์ที่ตัดสินใจและดำเนินคำสั่งการเทรด ถ้าแท่งเทียนมีขนาดเพียงพอ ก็อาจปรากฏขึ้นในกรอบเวลาหลายกรอบ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก
#2 Unpredictability and difficulty in managing risk
#2 คาดเดาไม่ได้และจัดการความเสี่ยงได้ยาก การเทรดด้วยแผนภูมิแท่งเทียนอาจส่งผลกระทบต่อการจัดการความเสี่ยง เทรดเดอร์ Forex ส่วนใหญ่ที่เข้าเทรดที่ส่วนปิดของแท่งเทียน และวางจุดหยุดขาดทุนไว้ที่ส่วนท้ายของแท่งเทียน แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเนื่องจากคุณจะไม่รู้เลยว่าแท่งเทียนจะไปปิดที่ตรงไหน ดังนั้นจึงทำให้การวางแผนการเทรดล่วงหน้าเป็นเรื่องยุ่งยาก และส่งผลกระทบต่อการจัดการความเสี่ยงของเทรดเดอร์
#3 ตัวชี้วัดตาม (Lagging Indicator)
การวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยรูปแบบแท่งเทียนมีข้อเสียที่ตัวชี้วัดตาม (Lagging Indicator) เนื่องจากเทรดเดอร์ Forex ส่วนใหญ่จะรอจนกระทั่งการปิดของแท่งเทียนก่อนเข้าเทรด ซึ่งการทำเช่นนี้มีข้อเสียมากมายโดยสาเหตุที่สำคัญที่สุดคือ ตัวชี้วัดตามจะบันทึกแค่ผลเท่านั้น ดังนั้นจึงเหลือที่ว่างสำหรับเทรดเดอร์ที่จะตัดสินใจหรือเก็งกำไรในการเคลื่อนไหวของราคาครั้งต่อไป