วัฏจักรคลื่นอีเลียต (Elliott Wave Cycle)
แนวคิดหลักของทฤษฎีคลื่นอีเลียต คือ ในแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง ราคาจะสร้างคลื่นที่เรียงต่อกัน 5 ลูก โดยที่คลื่น 3 ลูกถูกกำหนดโดยแนวโน้มหลัก และคลื่นอีก 2 ลูกสวนทางกับแนวโน้มหลัก คลื่นลูกที่ 1, 3 และ 5 เรียกว่า คลื่นกระตุ้น ส่วนคลื่นลูกที่ 2 และ 4 เรียกว่าคลื่นแก้ไข หลังจากคลื่นทั้ง 5 ลูกเกิดขึ้น คลื่น 3 ลูกในทิศทางตรงกันข้ามต้องเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เกิด “วัฏจักร” คลื่น 8 ลูก วัฏจักรนี้เรียกว่า วัฏจักรคลื่นอีเลียต ในรอบเวลาที่กว้างขึ้น วัฏจักรจะกลายเป็นคลื่น หมายความว่าวัฏจักรคลื่นอีเลียต 8 ลูกกำลังสร้างวัฏจักรคลื่นอีเลียตใหม่ในรอบเวลาที่กว้างขึ้น ทั้งนี้สามารถเกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้ามได้เช่นกัน และรูปแบบขนาดใหญ่สามารถแบ่งออกเป็นรูปแบบที่เล็กกว่าได้ เพราะฉะนั้นคลื่นทั้งหมดสามารถเป็นได้ทั้งรูปแบบขนาดใหญ่ และในขณะเดียวกันก็มีคลื่นลูกเล็ก ๆ ได้เช่นกัน คุณสมบัติเฉพาะของคลื่นอีเลียตนี้เรียกกันว่า การแบ่งย่อย (Fractalisation) ต่อไป เราจะมาทำความรู้จักกับ รูปแบบย่อย หรือ แฟร็กทัล (Fractal)
คำอธิบายเกี่ยวกับคลื่นอีเลียต (Elliott Wave) ทั้ง 5 ลูก
แฟร็กทัล (Fractal) เป็นรูปแบบที่สามารถแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ได้ แต่ละส่วนมีรูปร่างเหมือนรูปแบบหลักทุกประการ คำอธิบายอย่างละเอียดของคลื่นอีเลียต เป็นดังนี้:
คลื่นที่ 1 - เกิดขึ้นเมื่อ “จิตวิทยาทางตลาด” เกือบเป็นขาลงโดยสมบูรณ์ ส่วนข่าวออกมาเป็นเชิงลบ โดยปกติแล้วคลื่นนี้จะแข็งแกร่งมากสถานการณ์ของตลาดจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (เปลี่ยนจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น หรือฝ่าระดับแนวต้านที่แข็งแกร่งไปได้ เป็นต้น)
คลื่นที่ 2 – เกิดขึ้นเมื่อตลาดพลิกกลับอย่างรุนแรงจากราคาล่าสุด สามารถพลิกกลับได้ถึง 100% จากขนาดของคลื่นที่ 1 แต่ไม่ต่ำกว่าราคาเปิด โดยปกติแล้วจะมีขนาดประมาณ 60% ของคลื่นที่ 1 คลื่นนี้ก่อตัวขึ้นสวนทางกับแนวโน้มหลักของนักลงทุนที่ต้องการสร้างกำไร
คลื่นที่ 3 – การมองในแง่ดีของนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่แล้วคลื่นนี้เป็นคลื่นที่ใหญ่ที่สุดโดยไม่มีการแก้ไขใด ๆ และไม่มีทางเป็นคลื่นที่สั้นที่สุด ราคาจะเร่งขึ้นปริมาณการเทรดก็เพิ่มขึ้น โดยปกติแล้วคลื่นที่ 3 จะใหญ่กว่าคลื่นที่ 1 อย่างน้อย 1.618 เท่า และอาจจะมากกว่านั้น
คลื่นที่ 4 – คลื่นนี้มักระบุได้ยาก โดยปกติแล้วมักมีขนาดลดลงไม่เกิน 38% ของคลื่นที่ 3
คลื่นที่ 5 – คลื่นนี้ระบุได้โดยสัญญาณกลับตัว ราคาที่สูงขึ้นเมื่อปริมาณการเทรดโดยเฉลี่ยมีอิทธิพลต่อตลาด ที่ปลายของคลื่น ปริมาณการเทรดมักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
กฎ 3 ข้อของทฤษฎีคลื่นอีเลียต (Elliott Wave)
มีกฎ 3 ข้อที่สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ใช้ทฤษฎีคลื่นอีเลียตกับกราฟที่ใช้:
กฎข้อที่ 1: คลื่นลำดับ 2 ไม่ลงมาต่ำกว่าระดับเข้ากราฟของคลื่นลำดับ 1
กฎข้อที่ 2: คลื่นลำดับ 3 ไม่มีขนาดเล็กกว่าคลื่นลำดับ 1 หรือคลื่นลำดับ 5
กฎข้อที่ 3: คลื่นลำดับ 4 ไม่คาบเกี่ยวกับคลื่นลำดับ 1