เทคนิคการจัดการความเสี่ยงและเงิน
มีเทคนิคหลายข้อที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงและเงิน ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนี้
-
สร้างกำไรสม่ำเสมอ
กำหนดจุดสร้างกำไร (Take Profit) เปอร์เซ็นต์กำไรของการเข้าเทรดใด ๆ ก็ตามควรมากกว่าเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงอย่างน้อย 1.5 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 เท่าหรือมากกว่านั้น
-
เทรดโดยใช้จุดหยุดขาดทุน (Stop-Loss)
จุดหยุดขาดทุนเป็นเครื่องมือจำกัดการสูญเสียของคุณ และเป็นเครื่องมือจำกัดความเสี่ยงขั้นสูงสุด วางจุดหยุดขาดทุนเมื่อเข้าเทรดทุกครั้ง
-
อย่าขาดทุนมากกว่า 2% ของเงินทุนในธุรกรรมครั้งเดียว
(อย่าเสี่ยงมากกว่า 2% ต่อการเทรด) การขาดทุนเป็นเรื่องปกติของระบบการเทรด ดังนั้น เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนซึ่งคุณจัดสรรไว้สำหรับการขาดทุนต่อครั้ง มีความสำคัญมาก การขาดทุน 10% ของบัญชีของคุณหมายความว่า คุณต้องได้คืน 11.1% เพื่อฟื้นตัว ถ้าคุณขาดทุน 50% คุณต้องได้คืนเป็นเท่าตัวเพื่อกลับสู่จุดเริ่มต้น! การขาดทุน 90% หมายความว่าคุณต้องได้เงิน 900% เพื่อฟื้นเงินทุนเริ่มต้นของคุณ ดังนั้น เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการขาดทุนครั้งใหญ่ เทรดเดอร์ต้องกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรด
-
รู้สถิติของระบบของคุณ
การจะเชื่อระบบขอคุณเต็มร้อยนั้น คุณต้องศึกษาระบบอย่างดี เทรดเดอร์ที่ต้องการประสบความสำเร็จด้านการเงินในตลาด Forex ต้องรู้ว่าจะได้อะไรจากการปฏิบัติตามกฎการเทรดของตน
-
“ไดอารี่ธุรกรรม”
จดบันทึกธุรกรรมของคุณทุกครั้ง การรวบรวมสถิติและ “ไดอารี่ธุรกรรม” จะช่วยให้คุณเห็นว่าคุณได้เงินจากไหน และขาดทุนจากตรงไหน
ทำไมอัตราส่วนเทียบความเสี่ยงกับผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) จึงใช้ใน Forex?
อัตราส่วนเทียบความเสี่ยงกับผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้คุณสามารถประเมินความสามารถในการทำไรที่เกี่ยวข้องกับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ในการเข้าเทรดใด ๆ ก็ตาม การที่เทรดเดอร์รู้ความเสี่ยงที่แน่นอนก่อนเปิดตำแหน่งจะสามารถกำหนดความเหมาะสมของการทำธุรกรรมหนึ่ง ๆ ได้ ความเสี่ยงจะขึ้นอยู่กับระดับจุดหยุดขาดทุน และเท่ากับความแตกต่างระหว่างราคาปัจจุบันและคำสั่งหยุดของคุณ ระดับเป้าหมาย – คือระดับที่เทรดเดอร์วางแผนปิดการเทรดด้วยกำไร กำไรที่คาดว่าจะเกิดเท่ากับความแตกต่างระหว่างราคาปัจจุบันกับระดับเป้าหมาย สิ่งที่จำเป็น คือ การแบ่งกำไรที่คาดว่าจะเกิดด้วยความเสี่ยงเพื่อคำนวณอัตราส่วน ถ้ามูลค่าน้อยกว่า 1 ก็หมายความว่าความเสี่ยงในธุรกรรมนั้นมากกว่ากำไรที่อาจได้รับ แต่ถ้ามูลค่ามากกว่า 1 แสดงว่าผลกำไรที่ได้รับนั้นมากกว่าความเสี่ยง การที่จะเทรดได้อย่างยั่งยืนนั้น สิ่งสำคัญ คือ รักษาอัตราส่วนเทียบความเสี่ยงกับผลตอบแทนไว้ไม่ให้ต่ำว่า 1:1.5 ระบุจุดหยุดขาดทุนและจุดสร้างกำไรก่อนเริ่มการเทรด นอกจากนี้ เลือกจุดเข้าเทรดอย่างชาญฉลาด ปัจจัยทั้งหมดนี้จะให้ข้อมูลที่เพียงพอกับคุณเพื่อคำนวนณความเสี่ยง และกำไรที่อาจเกิดขึ้น เทรดเดอร์ควรเปิดการทำธุรกรรมก็ต่อเมื่อมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะสร้างกำไรมากกว่าเกิดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ถ้าสภาพของตลาดบอกว่าต้องการจุดหยุดขาดทุนขนาดใหญ่ ซึ่งมากกว่าเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่กำหนดไว้ต่อการเทรด แบบนั้นแล้วควรข้ามการทำธุรกรรมนั้นไป คุณควรทำเช่นนี้ถ้าผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นน้อยกว่า 1.5 ของความเสี่ยง