สัญญาณกลับตัว (Divergence) 2 ประเภท: ขยับขึ้น (Bullish) และ ขยับลง (Bearish)
มีสัญญาณกลับตัว 2 ประเภทด้วยกัน คือ ขยับขึ้น (Bullish) และขยับลง (Bearish) และเราจะทำความรู้จักกับทั้ง 2 ประเภทนี้ และดูตัวอย่างไปด้วยกัน
สัญญาณกลับตัวแบบขยับลง (Bearish Divergence) –
ราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ และอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาลดลง หรือไม่สร้างจุดสูงใหม่ ผลที่ตามมาก็คือ ราคาอาจจะปรับตัวลดลงตามทิศทางของอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา
สัญญาณกลับตัวแบบขาขึ้น (Bullish Divergence) –
ราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ แต่อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้น หรือไม่สร้างจุดต่ำสุดใหม่ ในสถานการณ์เช่นนี้ อาจจะเกิดแนวโน้มขาขึ้น
เราสามารถมองเห็นสัญญาณกลับตัวทั่วกรอบเวลา และกราฟคู่ค่าเงินส่วนใหญ่ ใช้จุดกึ่งกลาง (Pivot Points) ระดับแนวขวางของแนวรับ/แนวต้าน เส้นฟิโบนาชี และอีกมากมายเพื่อสร้างจุดเข้าเทรดของคุณได้
ปัจจัยสำคัญเมื่อคุณเทรดโดยใช้สัญญาณกลับตัว (Divergence Trading)
การเทรดโดยใช้สัญญาณกลับตัว (Divergence Trading) นั้นง่าย และสามารถเทรดในกรอบเวลาใดก็ได้ในตลาด Forex สามารถใช้กับ MACD, RSI หรือเครื่องมือสร้างสัญญาณอื่น ๆ ได้ สำหรับการวิเคราะห์ที่ดีที่สุดในการเทรดโดยใช้สัญญาณกลับตัวนั้น ควรใช้กราฟแบบเส้น (Line Chart) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ตัวชี้วัด RSI คุณจะสังเกตเห็นสัญญาณกลับตัวของคู่ค่าเงิน Forex ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ กราฟแท่งเทียนหรือกราฟรูปบาร์ไม่ใช่ประเภทกราฟที่ดีเมื่อเทรดด้วยสัญญาณกลับตัว เพราะกราฟเหล่านั้นมีไส้เทียน ในขณะที่กราฟเส้นแสดงราคาที่ปิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ RSI หรือตัวชี้วัดอื่น ๆ จับตามอง ดังนั้น กราฟเส้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการหาโอกาสเทรดโดยใช้สัญญาณกลับตัว เมื่อใช้สัญญาณกลับตัวในการเทรด อย่าวางตำแหน่งที่จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุด แต่วางไว้ที่ระดับแนวรับหรือแนวต้านทันที ในกรณีส่วนมาก ราคาของคู่ค่าเงินจะขยับต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อพยายามสร้างจุดต่ำสุดใหม่หรือจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งมักเป็นสิ่งที่ตลาดทำเพื่อหาจุดหยุดใดก็ตามที่เทรดเดอร์คนก่อนหน้าที่ต้องการได้ pips มากขึ้นจากการเทรดด้วยสัญญาณกลับตัว