• ร่วมเป็นพาร์เนอร์
  • 02-0260692
  • เมื่อเทรดในตลาด Forex คุณไม่จำเป็นต้องปิดการเทรดของคุณทั้งหมดเมื่อจบวัน เพราะโบรกเกอร์ Forex ของคุณจะย้ายตำแหน่งที่เปิดไว้ไปอีกวัน (Roll Over) โดยอัตโนมัติแทน ซึ่งหมายความว่า ตำแหน่งเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนหรือสลับกับตำแหน่งใหม่ ดังนั้น ค่าสวอป (SWAP) จึงหมายถึงอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนหรืออัตราดอกเบี้ยที่ครบกำหนด ที่ได้รับมาหรือจ่ายเป็นค่าถือตำแหน่งข้ามคืนในการเทรด Forex ดังนั้นเมื่อคุณถืตำแหน่งข้ามคืน ผู้ให้บริการสภาพคล่องจะดำเนินการย้ายตำแหน่งไปวันถัดไป อย่างไรก็ตาม สกุลเงิน 2 สกุลไม่ได้มีมูลค่าเท่ากัน ความแตกต่างของ 2 ค่าเงินอยู่ในส่วนต่างของอัตราเบี้ย ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างเกณฑ์มาตรฐานของอัตราดอกเบี้ยของทั้ง 2 ประเทศ

    แครี่เทรด (Carry Trade) และค่าสวอป (SWAP) บวก

    ยิ่งความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยมากเท่าไหร่ การย้ายตำแหน่งข้ามวัน (Roll Over) ก็จะยิ่งมีผลมากเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ยิ่งความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยน้อยเท่าไหร่ ผลจากการย้ายตำแหน่งข้ามวันจะน้อยลงเท่านั้น ความแตกต่างของดอกเบี้ยสุทธิเป็นรู้จักกันในชื่อ แครี่ (Carry) และเทรดเดอร์ที่ได้กำไรจากสิ่งนี้เรียกว่า แครี่เทรดเดอร์ (Carry Trader) ข้อมูลของระดับอัตราดอกเบี้ยของค่าเงินหลักสามารถหาได้จากเว็บไซต์ตลาดการเงินส่วนใหญ่ เมื่อพูดถึงอัตราดอกเบี้ยแล้ว เช่น ตำแหน่งการซื้อ (Long) ของคู่ค่าเงิน AUD/USD มีมาตรฐานอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.5% ของเงินดอลลาห์ออสเตรเลีย และ 0.250% ของเงินดอลลาห์สหรัฐฯ ในกรณีนี้มักมีค่าสวอป (SWAP) ที่ดีต่อคุณ เพราะคุณถือตำแหน่งซื้อในค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงในขณะที่ถือตำแหน่งขายในค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า ดังนั้น คุณจะได้เครดิตในรูปแบบของค่าสวอปเชิงบวก นี่คือส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามมาตรฐานของค่าสวอป ความแตกต่างของดอกเบี้ยสุทธิเป็นบวก (Positive Carry) จะเกิดขึ้นเมื่อคุณได้ดอกเบี้ยมากกว่าจำนวนที่คุณต้องจ่าย และถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีของคุณโดยตรง และนี่คือสิ่งที่นักลงทุนบางรายพยายามใช้ประโยชน์จากแครี่เทรด หรือการเทรดที่ทำกำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย

    ค่าสวอป (SWAP) เชิงลบคืออะไร?

    อย่างไรก็ตาม ถ้าความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยเป็นลบ (Negative Carry) เงินในบัญชีของคุณก็จะถูกหักไป ถ้าคุณเปิดและปิดการเทรดในวันเดียวกันก็จะไม่มีผลกระทบอะไร แครี่เทรดแตกต่างจากกลยุทธ์ส่วนใหญ่สำหรับตลาด Forex ตรงที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของคู่ค่าเงิน แต่มุ่งหวังได้ผลประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของคู่ค่าเงิน ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องระลึกไว้เสมอ มีดังนี้:

    • ถ้าคุณซื้อ และค่าเงินพื้นฐานของคุณมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าค่าเงินอ้างอิง คุณจะได้กำไรจากผลของค่าสวอป

    • ถ้าคุณขาย และค่าเงินพื้นฐานของคุณมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าค่าเงินอ้างอิง คุณจะขาดทุนจากผลของค่าสวอป

    กระทู้ที่เกี่ยวข้อง